12.1.58

{Review} One day trip at Dasada Gallery



สวัสดีค่ะ วันนี้ปลาขอแหวกแนวนิดนึง หลังจากที่มักจะรีวิวเครื่องสำอางค์บ้าง ซีรีส์บ้าง
วันนี้ปลาจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ
เป็น One Day Trip ทริปวันเดียวก็เฟี๊ยวได้ แถมใช้เวลาไม่มากในการเดินทางด้วย


แท่น แทน แท๊นนนนนนน
........

DASADA GALLERY KHAO YAI - PRACHINBURI







การรีวิวครั้งนี้ปลารีวิวเองนะ ในฐานะคนที่ไปเที่ยวที่นี่ทุกปี ย้ำว่าทุกปีจริงๆ 55555
บางปีไปมากกว่า 1 ครั้งถ้าไปในช่วงเทศกาล (ปีใหม่) ราคาบัตรจะแพง (ประมาณ 200 บาท)
แต่ถ้าไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาล เค้าก็เปิดให้เข้าชมนะ ในราคา 50 บาทขาดตัว
คือราคาช่วงไฮก็ไฮจริง ๆ บทจะโลวก็โลวซะใจหาย

การเดินทางไม่ยุ่งยาก เพราะเค้าจะมีป้ายบอกเป็นระยะ
ถ้ามาจากกทม. ยิงยาวมาเส้นรังสิต - นครนายกเลยค่ะ ตรงไปตามป้ายเพื่อเข้าสู่จ.ปราจีนบุรี
ถ้าศึกษาเส้นทางมาบ้าง เราจะหาพิกัดที่เรียกว่า "แยกหนองชะอม" 
ที่เป็นแหล่งขายผลไม้ของจ.ปราจีนบุรี หาไม่ยาก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ต้องเลี้ยวนะคะ ตรงไปเลย
จากนั้นขับตรงไปเรื่อย ๆ  เราจะเจอวงเวียนแยกนเรศวร ให้เราเลี้ยวซ้ายไม่ต้องผ่านวงเวียน
ขับตรงไปเรื่อยๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่ตีนเขาใหญ่ ซึ่งจะมีป้ายบอกทางไปดาษดาตลอดอยู่แล้วค่ะ




ขาไป ดาษดาจะอยู่ขวามือของเรา พอเลี้ยวเข้าก็จะพบกับที่จอดรถและรถมหาศาล
ถ้าไปช่วงเทศกาลนี่ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น คิดก่อนว่าจะจอดตรงไหนดี
แต่ปลาไปมากี่ปี ๆ คนที่จอดรถด้วยสกิลกะโหลกกะลาอย่างปลาก็มีที่จอดตลอดนะ
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้เจ้าหน้าที่รปภ.และคนจัดรถด้วยค่ะ ไม่มีปัญหาที่จอดไม่มีเลย
นอกจากนี้เค้ายังมีรถรับส่ง กรณีจอดรถไกล จึงมีความสะดวกสบายไปอีก

ในทุกๆ ปี ที่ไปปลาจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ตลอด
นั่นก็คือ การจัดทัศนียภาพดีขึ้น ทางเดิน ระบบขายบัตร คือดีหมดเลย
ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ที่มาดูแลยิ้มแย้มและให้คำแนะนำดีมากค่ะ



ครั้งล่าสุดที่ไป เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำรอบการแสดงอย่างละเอียด ช่วยเราตัดสินใจว่าจะไปจุดไหนก่อน
เพราะว่าค่อนข้างมีหลายโซนมาก เมื่อก่อนดาษดาเป็นพื้นที่กว้างจริงแต่ไม่ค่อยมีอะไร
นอกจากการจัดแสดงดอกไม้ แต่ปัจจุบันมีโรงนา มีการสร้างฟาร์ม เลี้ยงสัตว์แบบพิมพ์นิยม


DASADA 2015



ปีนี้เน้นการแสดงดอกไม้นานาชนิดมากขึ้นค่ะ แต่ Theme หลักของเค้าก็คือ "กล้วยไม้"



ปลากับที่บ้านไปถึงก็ประมาณ 4 โมงเย็น
เจ้าหน้าที่เลยแนะนำว่าช่วง 17.00 - 17.30 น. มีการแสดงที่โรงกระจกโซน 1
พอเข้าไปก็มีคนเริ่มจับจองที่นั่งกันแล้ว
แต่เป็นแบบนั่งพื้นนะคะ เราก็เริ่มตื่นเต้นว่าด้วยพื้นที่แค่นี้เค้าจะโชว์อะไร




ระหว่างรอก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ 


เคยได้ยินเหมือนกันที่หลายๆ คนบอกว่าไปดาษดามันก็ได้แค่ถ่ายรูป
สินค้าก็ค่อนข้างแพง เหมือนเอาดอกไม้ที่โตจากที่อื่นมาจัดแสดงให้มันสวยแค่นั้น
บัตรค่าเข้าก็แพงมหาโหด

ส่วนหนึ่งปลาเห็นด้วยนะ กับราคาสินค้า เจอราคาน้ำขวดเล็กขวดนึง 20 บาท (ซื้อขวด 1.5 ลิตรได้เลย)
หรือไอศกรีม 1 ลูก ราคา 60 บาทก็รู้สึกหนาวเงินในกระเป๋าเหมือนกัน 55555
มันก็แพงจริงๆ แต่เค้าไม่ได้บังคับขาย เราไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ จริงมั้ย?
อีกอย่างที่นี่ตอบโจทย์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูปมากกว่า 
เพราะการจะสรรหาที่ถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆ หลายชนิดที่เอามารวมไว้ในที่เดียวกันมันค่อนข้างยุ่งยาก
ถ้าเราไปที่นี่ มันก็จะ 3 in 1 คือ ถ่ายรูป เที่ยว ทานอาหาร




 นั่งรอชมการแสดง




สรุปคือ มันเป็นการแสดงแสงสี โดยเค้าจะปิดผ้าจากบนหลังคาโรงกระจก
ให้มืดแล้วจึงใช้ไฟในการเล่นแสงสี ประกอบบทเพลงพระราชนิพนธ์
ก็สวยนะ ดูตื่ตนตาตื่นใจดี แต่เราอยู่ดูไม่จบ ก็ลุกไปที่อื่นต่อ เพราะกลัวไปดูน้ำพุไม่ทัน

อ่อ ลืมบอกไป เราซื้อบัตรเข้าชมในราคา 200 บาท บวกเพิ่มอีก 50 บาท 
เพื่อที่จะชมการแสดงน้ำพุซึ่งจะมีรอบแสดงในช่วงเวลา 18.30 น.


ออกมาจากโซนที่ 1 ก็ไล่ถ่ายรูปมาเรื่อยๆ ค่ะ ดอกไม้เยอะดี
อากาศด้านในดีด้วย เพราะมีเครื่องปรับอากาศเยอะเต็มอัตรา เดินไปหนาวไป


กอดหมีไว้ เพื่อถ่ายรูปนะ ไม่ได้ซื้อนะ ตัวละ ...... 400 เอง ฮ่าๆๆๆๆ


ไปที่นี่ปลาไม่ได้ซื้ออะไรหรอก มาถ่ายรูปล้วนๆ
ถ้างั้น ถามว่าเค้าจะขายใคร?
ไม่ยากค่ะ ปลาเองเปรียบเสมือนขาประจำนะ เพราะที่นี่ใกล้บ้าน มาเมื่อไรก็ได้
แต่สำหรับขาจร เช่น คนที่มาจากกทม. หรือต่างจังหวัด
เค้าก็จะซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกกัน ทั้งตุ๊กตา เสื้อก็มี ต้นไม้ก็สวย
อย่างคุณอาปลามาจากกทม. เค้าจะรู้สึกว่าที่นี่อลังมาก เพราะเค้าชอบต้นไม้
พี่สาวปลาชอบปลูกกล้วยไม้ ก็เล็งแล้วเล็งอีกอยากจะซิื้อ










ก่อนที่จะเดินมาโซนแสดงน้ำพุ ก็จะมีแพที่เป็นร้านค้า ขายสินค้า OTOP จังหวัดปราจีนบุรี
เราสามาระเดินข้ามสะพานแพนั้นเพื่อไปยังอีกโซนหนึ่งได้ค่ะ
ไปแล้วจะเจอโรงนา มีการเลี้ยงลูกวัว มีโรงเลี้ยงสัตว์อะไรเทือกนั้นแหละ


จุดที่น่าสนใจและเป็นจุดขายของที่นี่ อีกจุดหนึ่งก็คือ "อุโมงค์สายรุ้ง"
บางคนก็เรียกอุโมงค์เรืองแสง
ภาพนี้ปลาถ่ายด้วย Nikon1 V1 ลูกสาวคู่ชีพปลาเอง
ถ่ายตอนกลางคืน ขากลับจากดูน้ำพุ ติดคนเยอะมาก แต่สวยดี ดูเป็นธรรมชาติเนอะ 555555




ก่อนการแสดงโชว์น้ำพุจะเริ่ม คนเริ่มจับจองที่นั่งกันเยอะแล้ว



อันนี้ถ่ายจาก Nikon  ไม่ได้ตั้งใจเท่าไร เพราะตาก็จะดู
มัวแต่ตื่นเต้นกับน้ำพุ ฮ่าๆๆๆๆ
เป็นการแสดงแสง สี กับน้ำพุ เปิดคลอกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ค่ะ
ถ้าเต็ม 10 ปลาให้ 9 เลยนะ สำหรับจุดนี้ คือสวยจริง แต่ขอหัก 1 คะแนนเรื่องเวลา เพราะจบเร็วไป



โดยรวม รู้สึกคุ้มตรงน้ำพุ (50 บาท)
ส่วนดอกไม้ คือยังไงดี มันก็เหมือนเดิมทุกปีนะ คือจัดสวยแหละ มีเหี่ยวบ้างอะไรบ้าง
แม่ปลาไป ท่านบ่นนะว่าเบื่อ 5555555 ปลาเองได้ถ่ายรูป ก็เลยไม่รู้สึกเบื่ออะไร
ส่วนคุณอานี่บอกเลยว่าชอบมาก เพราะเค้ารักต้นไม้ ดอกไม้

ดาษดาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับคนชอบถ่ายรูป
ทั้งรูปตัวเองแล้วก็รูปดอกไม้ ให้ดี ตระเวณเที่ยวไปเรื่อยๆ แล้วสามารถมาแวะเที่ยวที่นี่ได้ค่ะ
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน เราว่ามาช่วง 4 - 5 โมงเย็นกำลังดีนะ เพราะจะมีการแสดงน้ำพุช่วงค่ำพอดี





















A lot


.
.
.
.
.
.

มาดูประมวลภาพ Theme จัดดอกไม้ของดาษดากันดีกว่า



DASADA 2011





มีห้องอาหารด้วยนะ 










DASADA 2012







DASADA 2013 -2014






ไปมาหลายปีแล้วจริงๆ 555555555
รีวิวครั้งนี้เกิดขึ้นมาเพราะอยากแนะนำค่ะ เผื่อใครอยากขับรถใกล้ ๆ ไปดูดอกไม้สวยๆ
บรรยากาศริมเขาใหญ่ ราคาพอไปกันได้ ก็แนะนำที่นี่เลย :)

7.1.58

G o o d B y e 2 0 1 4 ' s T r i p.



Cheers to the new year! I hope all your wishes come true!



2015
2015
2015
2015




สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน ...... ( - -" ) หลายคนบอกผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วป่ะ? ฮ่าๆๆๆ
เพิ่งจะได้หยุดพักแล้วก็อาศัยเวลางานมาอัพนี่ล่ะ (หืม???)

ทริปนี้เล็กๆ สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ
โดยปกติเราเองก็ไม่เคยได้มีโอกาสไป Countdown ที่ไหนในวันที่ 1 ของทุกปีอยู่แล้วนะ
เพราะมันตรงกับวันเกิดของพ่อทุกปีเลย (และมันก็คงจะเปลี่ยนไม่ได้ 5555)


เมื่อปีที่แล้ว ปลาเลือกที่จะไป CTW กับเพื่อนสนิท เพราะนางทำงานกทม. เราเลยไปหานางที่โน่น
ปีก่อนๆ ก็เหมือนกัน ไป Siam Paragon ตามด้วย Central world แลวก็จบที่ช๊อปปิ้งจตุจักร

เฉพาะปีหลังๆ มานี่คือรู้สึกแก่มากนะ ปกติจะฮึดมาก คือคนเยอะ คือเดินนี่จะลุย
พอมาปีหลังๆ เดินพอเป็นพิธี ถ่ายรูปกรุบกริบ พอไปเดินเจเจ ก็กระซิบบอกเพื่อนแล้วว่า "กูเมื่อย"
เพื่อนเองก็สังขารพอกัน ไอ้จะมานั่งบีทีเอสแบบเหมาโบกี้ คือเดินยันเช้าเลย มันคือฝันไปแล้ว
มาตอนนี้ เดินถึงตี 3 คือเก่งสุดแล้วค่ะ :O


ปีนี้อาจจะรูปเยอะกว่าปีก่อนๆ เพราะไปกับผู้ชาย ฮ่าๆๆๆๆ เป็นปีแรกที่ฉลองปีใหม่กับแฟน
คือหน้าหนาวกี่ปีๆ เทศกาลกี่ทีๆ  "กูโสด" มาโดยตลอด
ทริปนี้แอบโดนเพื่อนเคือง (หรือเปล่า) คือปกติไปกับเพื่อนไง พอปีนี้ไปกับผู้ชาย เพื่อนก็ไม่ไป พร้อมบอกเป็นนัยๆ ว่ากูไม่โกรธค่ะ ไม่เลย ไม่ค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ยิ่งย้ำยิ่งดูโกรธป่ะวะ? 5555)

30 Dec 2014



ปีนี้ให้แฟนขับรถเข้าไปเอง จากการศึกษาเส้นทางและให้ GPS นำทาง
ก็พบว่า การขับรถในกรุงเทพสำหรับคนบ้านนอกเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิด
แฟนขับไปก็บ่นไปว่า ให้มาอยู่ที่นี่เลยจะไม่มา ขับรถก็เครียด รถติดอีก บลาบลาบลา
แต่น้องปลานั่งสวยๆ ไม่พูดอะไรค่ะ เพราะไม่ได้ขับ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เราขึ้นทางด่วนกัน เพราะกลัวรถติด ซึ่งสะดวกสบายนะ เดินทางออกจากบ้านเกือบๆ 5 โมงเย็น
มาถึงกทม. (อนุสาวรีย์ฯ) ประมาณ 18.30 น.
เราคุยกับแฟนแล้วว่าให้เอารถไปจอดที่ร.พ.พระมงกุฎ แล้วขึ้น BTS จากอนุฯไปลงสยามเลย
จอดในร.พ.สะดวกดีค่ะ คือเดินมาที่ BTS กันขำๆ นะ เดินหนุงหนิงมากับผู้ชาย
ความเหนื่อยมันก็ไม่ค่อยมีหรอกเนอะ 5555555555555


เรามีจุดหมายคือ "Siam Paragon" จากนั้นก็ไป Siam One  เพราะมีภารกิจซื้อของให้น้องสาว

สำหรับพารากอนนะ โหยยยยยยยย คนก็เยอะอยู่แล้วแหละ โดยส่วนตัวเราว่าพารากอนไม่มีไรเลย
ปีนี้ตรงทางเดินก็จัดงั้นๆ นะ ไม่ค่อยถูกใจเท่าไร เพราะปีที่แล้วไฟฟู่ฟ่ากว่านี้
ปีนี้สิ่งที่เห็นเยอะพอๆ กับหัวคน คือ "ไม้เซลฟ์ฟี่" คือไปทางไหนก็เจอ
ขนาดบางคนมากับเพื่อน กับแฟน ถ่ายคนเดียวก็ยังใช้ไม้เซลฟ์ฟี่นะ เลยงงว่า จะเอาเพื่อนมาทำไม
คหสต.เราว่ามันสะดวกดี แต่เป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างน่ารำคาญ ... ไม่รู้ทำไม แต่ช่างมันเถอะ 555



เราใช้เวลาสักพักหนึ่งในการฝ่าฝูงชน อภิมหึมามหาชน มวลมหาประชาชน ... พอ!!! ไป Siam One
พอไปถึงก็ใช้เวลาอีกพักใหญ่ในการเดินทาง Kitty House Cafe BKK
คือตั้งแต่เปิดมา ก็เพิ่งไปนี่ล่ะ อย่าเพิ่งช๊อค บ้านนอกจริงๆ บอกแล้ว :P



ผ่าง!!! ตอนแรกที่คิดไว้คือไปถึงตรงนั้นก็ประมาณ 2 ทุ่มกว่า คนคงซาแล้ว
ซึ่งมันก็จริง คนไม่ค่อยมี จะมีก็เล็กน้อยที่เค้ามานั่งทานขนม กาแฟกันที่ชั้นล่าง
ส่วนเราต้องไปที่ Shop ชั้น 2 เพราะจะไปซื้อเสื้อ
ตอนแรกก็กังวลนะ คืออารมณ์มาซื้อเสื้อตัวเดียว แต่ถ่ายรูปล้านแปด พนง.จะเป็นยังไง
คิดออกมะ เวลาไปตามเคาท์เตอร์แบรนด์ไรงี้อ่ะ มันจะมีพนง.สปีชีส์นึงที่ไม่รู้เป็นห่าอะไร
จะไม่ค่อยรับลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อของเท่าไร

แต่พลิกล๊อกนะ เราไปเจอพนง.ผู้หญิง ที่ Shop นั่นแหละ เราก็ถือตะกร้านะ แล้วก็ถ่ายรูป
แต่จปส.มีอย่างเดียวที่จะซื้อ คือ "เสื้อ" 555555555
พนง.ที่นี่ต้อนรับดีมาก คือยิ้มแย้ม มีมนุษยสัมพันธ์และ Friendly มากกกกค่ะ
ถามหาไซส์ หาลาย หาอะไรก็แล้วแต่ พูดจาดี บริการดี เราชอบ
(คราวหน้าจะไปคาเฟ่ อิอิ)



เดินถ่ายเกือบทุกมุม แต่ซื้อเสื้อตัวเดียว 5555555555

*ส่วนตัวเราว่าไม่แพงหรอก มันเป็นของลิขสิทธิ์ แล้วไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะ ถูกก็มี


จาก Siam One ทีนี้ไป Sky Walk ราชประสงค์กันบ้าง





มันจะแบ่งโซนเป็นไฟสี Neon หลายๆสี ให้อารมณ์หลายอารมณ์
เอาจริงๆ คือคนมันเยอะ ต่างคนก็ต่างจะรีบถ่ายให้มันจบๆไป 5555555 ไม่เซลฟ์ฟี่เอย กล้อง DSLR เอย
ทุกอย่างมันพรึ่บพรั่บไปหมดนะ ถ้าเดินเร็วๆ อาจตาลายเหมือนกัน


แต่ละจุดก็จะมีที่ยืนถ่ายรูป โดยเค้าจะมาร์กส์ไว้อยู่แล้ว
อินี่ก็ฮา บอกแฟน "เฮ้ยๆ มาถ่ายกับจุด Photo เฮียยยยยยยยยยยเร็ว"
แฟนถาม โฟโต้ไรนะ "โฟโต้เฮียไง โฟโต้เฮียยยยยยยย"
ก้มไปอ่าน อ่อ "Photo Area" 55555 กูก็บ้า แล้วตะโกนซะดัง



ชอบสุดคือไฟสีนี้ โทนส้มคือดูสวย (?) ค่อยเป็นผู้เป็นคน
ลองไปนิออนสีน้ำเงินแล้วกลัวตัวเอง ยกกล้องมาเซลฟ์ฟี่แล้วรู้สึกเจ็บปวด 55555


ที่สุดท้าย ... ที่จะไปถ่ายรูปปปปป



Central World

ตอนเดินไปสกายวอล์คก็ไม่เหนื่อยหรอก พอเดินกลับเท่านั้นแหละกูเหนื่อยเลย
5555555555555555
เห็นคนก็เหนื่อยเข้าไปอีก เลยตัดสินใจเดินขึ้นชั้นบนก่อนลงมาลานเบียร์
ใจจริงคิดนะว่าจะไปไหว้พระพิฆเนศก่อน ไปๆมาๆ ลืมค่ะ เห็นลานเบียร์ เห็นสนูปปี้ก็ลืมหมดเลย
(ดูเป็นคนดีมั้ย?)



เราอ่ะเข้าใจนะว่ายิ่งวันใกล้ ๆ ปีใหม่ คนมันก็จะยิ่งเยอะ มาทุกปีก็เยอะทุกปี
ปีนี้ก็เยอะแหละ ต่างคนก็ต้างหามุมตัวเอง หาสนูปปี้ของตัวเอง แล้วก็กอดก็ถ่ายรูป
แฟนเราบอกว่า วันหลังจะซื้อให้ เอาไปตั้งไว้ในสวนที่บ้าน
เดี๋ยวเอาไฟประดับต้นไม้ อยากถ่ายกี่ชม.ถ่ายเลย!!! ฮ่า ๆ ๆ ๆ  แล้วอารมณ์มันเหมือนกันมั้ย? แหม่
สนูปปี้มีอยู่ไม่กี่แบบด้วย เยอะจริง แต่คนแม่งเยอะกว่า
เดินไม่ระวังแม่งก็จะสะดุดTีนสนูปปี้นี่ล่ะ แต่ก็โอเคนะ ขำๆ ดี


























เหนื่อยอยู่นะ กว่าจะหาสนูปปี้เป็นของตัวเองได้




แฟนเริ่มถ่ายรูปเป็นล่ะ คือเริ่มจับมุมได้ ก่อนนี้ดุไปหลายที สักพักได้เลย งุงิ
มันยากตรงไหน แค่ถ่ายให้ดูผอม ฮ่าาาาา



จบแล้วค่ะ กับทริปเมืองหลวง
เราออกจากที่โน่นประมาณ 4 ทุ่มกว่า เพราะต้องรีบขึ้น BTS กลับมาเอารถที่อนุสาวรีย์


31 Dec 2014



วันสุดท้ายคุยกันว่าอยากขึ้นเขาใหญ่ เต๊นท์น่ะเหรอ? ไม่มีจ่ะ อะไร ๆ ก็ไม่มี
มีแต่ตัวกับหัวใจไป ..... เคี๊ยกๆๆๆๆ

เราไปเริ่มต้นที่ปราจีนบุรีกันก่อน เพราะจะขึ้นเขาใหญ่จากฝั่งนั้น
(เขาใหญ่มีอาณาเขตติดต่อกัน 4 จังหวัด คือ โคราช ปราจีน นครนายก และสระบุรี)
ปกติเราก็ไปแต่ทางปากช่อง โคราชนะ แฟนเองก็ไม่รู้ว่าจะขึนไปทางไหน
คิดว่าคลำทางกันไปก็ไปถึงเอง

แล้วมันก็ถึงจริงๆ วันนั้นเจ้าหน้าที่เขาใหญ่เปิดให้เข้าฟรีด้วย
เอาดีๆ นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันจะมีจุดตรวจ หรือจุดชำระเงิน คิดว่าฟรีมาโดยตลอด 5555


ช่วงที่เราไปถึง มันช่วงเที่ยงพอดี แต่อากาศด้านบนเย็นมาก คือหลับสบายแหละ
นั่งรถไปก็ง่วงไปนะ 55555555
สิ่งที่เจอเยอะที่สุดไม่ใช่ป่านะคะ คนค่ะคน คนขึ้นไปกางเต๊นท์เยอะมาก
เราก็งงนะว่ามันมีอะไร บางคนก็มาเอาแค่บรรยากาศแหละ อย่างเราไปถ่ายกับป้าย เสร็จก็กลับ 555


มีสิ่งหนึ่งที่ประทับใจ คือเจ้าหน้าที่ค่ะ
ดูแลดีมาก พูดจาดี เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว คือเราสามารถขอความช่วยเหลือเค้าได้นะ ถ้าอยากได้อะไร



ชื่อสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ทั้งนั้นเลย "เหวนรก"งี้ "ผาเดียวดาย"งี้ 55555555555

มันเป็นทริปที่ไม่ได้แพลนอะไรเลยจริงๆ นะ แต่รู้สึกว่ามันสนุกกว่าแพลนไว้อีก
คือขับรถไป เราไม่รู้หรอกว่าจะไปไหน จะถึงหรือยัง ข้างหน้าจะเป็นยังไง
ก่าจะกลับลงมาก็ใช้เวลาอยู่นะ เพราะหลายกิโลเลย คือ แทบจะหลับ
(หลับอ้าปากหวอเลย แฟนบอก 55555)




อันนี้ถ่ายทางลงเขา ต้นเฟิร์นสวยดี ตัดคนออกไปหน่อยน่าจะดีกว่านี้ 5555
เอา Nikon ไป แต่ถึงเวลาจริงๆ ถ่ายจากไอโฟนเยอะกว่า เพราะมันสะดวกกว่ามาก
ไม่ต้องเป็นห่วงเลนส์ ไม่ต้องคอยดูแล ถ่ายแล้วอัพเลย ชีวิตดี๊ดีย์



ใครที่อยากจะไปบ้าง ก่อนที่หน้าหนาวจะโบกมือลา เราแนะนำค่ะ
จะบ้านนอก จะเข้ากรุง เลือกกันได้ เพราะทุกที่มีคนทั้งนั้น 55555555555

โดยส่วนตัว เราชอบทั้งในเมืองทั้งธรรมชาตินะ มันให้คนละความรู้สึก แต่าำคัญคือได้ผ่อนคลายมาก
จากที่ทำงานมาตลอด ได้พักบ้าง ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง จะได้มีแรงมาสู้ต่อในปี 2558



Happy New Year 2015 อีกครั้งค่ะทุกคนนนนนน