3.2.57

วางตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง :)

อย่าปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ถูกใจใคร

เพราะท้ายที่สุด
.
.
.
เรานั่นแหละที่จะทนอยู่กับสิ่งที่เราเปลี่ยน....ไม่ได้






ปกติไม่ค่อยอัพเรื่องแบบนี้ เพราะในชีวิตไม่คิดว่าจะมีเรื่องพวกนี้มากวนใจอีกแล้ว
แต่
.
.
.
สงสัยปีนี้จะเป็นปีเฮง(ซวย) เรื่องความรัก เรื่องผู้ชาย เหมือนจะได้พบเจอหลายๆคน หลายรูปแบบ
จนอยากจะอยู่เงียบๆ อยากโสด โหยหาเพื่อน อยากมีคนรับฟัง
ซึ่งก็มีเยอะนะ เพราะเราจะเล่าให้เพื่อน พ่อแม่ และคนในครอบครัวฟังตลอด

มันตลกตรงที่ "ความรัก" ที่เข้ามาอุปสรรคมันเยอะ เยอะกว่าทุกๆครั้ง
ในกฎของความรัก คนที่วิ่งตาม มักเจ็บปวดกว่า
ยอมรับว่าตอนนี้อยู่ในสถานะเป็นคนถูกความรักวิ่งตาม แรกๆก็วิ่งหนี หลังๆ เริ่มชะลอตัวเองไปบ้าง
แต่ก็เหมือนจะมีเรื่องให้ต้องรีบวิ่งหนีอีก (กำลังสับสนตัวเอง)


เรื่องมันทีอยู่ว่า เรารู้จักกับ "ผู้ชายคนหนึ่ง" โดยพี่ที่เรียนป.โทด้วยกันแนะนำ
ตัวเราเองถามว่าชอบเค้ามั้ย? เราเฉยกับทุกคนที่เข้ามาจีบนะ เพราะเป็นคนที่ถ้าชอบใครจะรู้สึกมีหัวใจขึ้นมาเอง
แต่พอมีใครมาชอบ ถ้าเฉยๆ ก็คือยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น
เพราะเรื่องแบบนี้ รีบตัดสินใจ เหมือนเรารีบสูญเสียความเป็นตัวเอง แล้วไปนึกถึงคนอีกคนมากขึ้น
ยอมรับว่าเราค่อยๆ รู้จัก "เขา" มากขึ้นจากที่เค้าคอยเล่าเรื่องราวของเขาให้ฟัง

ผู้ชายคนนี้อยู่ในครอบครัวใหญ่ เป็นพี่ชายและหลานชายคนโต มีความรับผิดชอบในครอบครัวสูง
สุภาพและขยัน (ที่สังเกตเห็นเอาเอง) 
กับคนนี้บอกเลยว่าแรกๆ เหมือนจะเรียบง่าย พอจะรู้มาบ้างว่าเขาเพิ่งเลิกกับแฟน เพราะแฟนเขาเลือกที่จะกลับไปคบกับคนเก่า
"เขา" มีบาดแผลมา เราจึงกลัวที่จะรีบเริ่มต้นใหม่ บอกตรงๆ ไม่อยากเป็นตัวแทนใคร
ซึ่ง "เขา" ก็รู้นะว่าเราคิดยังไง

เรื่องมันยุ่งเหยิง เมื่อมีบุคคลที่ 3 4 5 เข้ามาเกี่ยว
เพราะแฟนเก่าของ "เขา" จะกลับมา พอเห็นว่า "เขา" กำลังจีบเรา ก็พยายามสืบประวัติเรา
และวันหนึ่ง นางก็ถามมาในแชทว่าเราเป็นอะไรกับ "เขา"
โชคชะตาเหมือนเล่นตลก วันนั้น "เขา" มาหาเราที่ทำงานพอดี เราเลยให้ "เขา" ดูข้อความจากญ.คนนั้น
"เขา" ขอพิมพ์หาญ.คนนั้นเอง โดยผ่าน fb เรา เราเลยนั่งอ่านข้อความที่เขาพิมพ์ไปด้วย
เราโตพอที่จะเข้าใจได้ว่า จปส.ของผู้หญิงคนนั้นคือยังไม่คิดว่าตัวเองจบกับ "เขา" แล้ว
แต่ "เขา" รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจบไปนานแล้ว และพร้อมจะเริ่มต้นใหม่แล้ว

เรื่องวันนั้นก็ผ่านไปแบบ "ขำๆ"

ต่อมา "เขา" บอกว่า อาสะใภ้ของเขาเริ่มเข้ามายุ่งย่ามกับชีวิต "เขา" มากขึ้น
เพราะผู้หญิงคนนั้นดันสนิทกับอาของ "เขา" มาก ทุกวันนี้เวลามีเรื่องอะไร นางก็มักจะไปเล่าสู่กันฟังกับอาของ "เขา"
อาพยายามมาคุย มาต่อว่าว่าทำไมถึงพูดไม่ดีกับผู้หญิงคนนั้น
ซึ่งเราถามแล้วว่าอาของ "เขา" รู้มั้ยว่าญ.คนนั้นบอกเลิก "เขา" เอง 
"เขา" จึงบอกว่า ญ.คนนั้นไม่มีทางบอกหรอกว่าทิ้งเขา เพราะนั่นคือการฆ่าตัวตายของนางชัดๆ

เมื่ออาทิตย์ก่อน เราไปรับหลานสาวและกลับบ้าน "เขา" โทรมา บอกว่าจะมาหานะ
เราตกใจนะ แต่ก็ไปนั่งรถเล่นกันตามที่เขาชวน
เราไม่ถามถึงเหตุลหรอกว่า "เขา" มาทำไม เพราะเราเป็นผู้หญิง ทำไมเราจะดูไม่ออก
พ่อแม่เรารับรู้ว่า"เขา"มา เราไม่เคยปิดบังคนในครอบครัว เพราะท่านเลี้ยงดูเรามาแบบนี้
เรากับ "เขา" ไปนั่งรถเล่น เดินดูโน่นนี่กัน สุดท้ายเราก็หยิบมือถือมาถ่ายรูป
ถามว่าแอบถ่ายมั้ย? ไม่เลย เพราะ "เขา" รู้ตัว แต่แค่ไม่หันมา 
เราเองก็ไม่แน่ใจว่าคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงถ่าย มันเป็นรูปคู่ เหมือนแคนดิท คือเหมือน "เขา" ไม่รู้ตัว
แต่จริงๆ รู้ และบอกเองว่า "เอาลงเฟซบุคได้"

.
.
.
พอลงรูปนี้แค่นั้นแหละ!!!

"เพื่อน" "พี่น้อง"  "คนรู้จัก" เรา
เข้ามาแซวกันเต็ม ฮ่าๆๆๆ แต่ไม่ีมีใครพูดกล่าวเชิงไม่ดีหรือเสียหายนะ


เรามารู้จากที่ "เขา" เล่าให้ฟัง ว่าทางฝ่ายอาของ"เขา"เมื่อเห็นรูป
(จากใครเอาไปฟ้องหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะอากับ "เขา" ไม่ได้เป็นเพื่อนกันใน fb)
ก็บ่น ตีโพยตีพายหาว่าเราบอกให้ "เขา" มาหา
การที่เราติด Tag ไป นั่นหมายถึงเราต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ (?)
อายังพูดอีกว่า "เราเป็นผู้หญิงไม่ดี หน้าที่การงานไม่มั่นคง คบและคุยกับผช.หลายคน"

คำพูดพวกนี้ "เขา" เป็นคนเล่าให้เราฟัง
"เขา" พยายามถามตลอดว่า เราโกรธมั้ย? ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจนะ แล้วก็ทำหน้ารู้สึกผิด + โมโหตลอด



เราขอพูดตรงนี้เลยนะ (ซึ่งเราพูดกับ "เขา" ไปหลายรอบแล้ว)
.
.
.

มันเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นญาติผู้ใหญ่จะอยากให้ลูกหลานของตัวเองได้เจอกับคนดีๆ
ยิ่งในครอบครัวใหญ่แล้วยังเป็นสังคมคนจีน จุดนี้มันเป็นเรื่องธรรมดามาก
แต่เราขอติหน่อย เรื่องการว่าร้ายคนอื่น แบบที่ไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา

เรายอมรับว่าตัวเองอาจจะยังสอบบรรจุไม่ได้ ไม่มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน
แต่ทุกวันนี้ชีวิตเราเองไม่เดือดร้อน ไม่เคยขาดอะไร ครอบครัวอบอุ่น พ่อแม่พี่ชายเข้าใจ
ถ้าจะมาตัดสินกันเพียงเรื่องแค่นี้ ก็คงต้องปล่อยให้คุณมองโลกด้านเดียวต่อไป

บอกเลยค่ะ เราเองอยู่ของเราอย่างสงบสุขมาก
ทุกครั้งเราไม่เคยเรียกร้องให้ "เขา" หรือใครเข้ามาหา
เราเป็นผู้หญิงมีค่า และวางตัวดี รู้ตัวเองเสมอ

การมีคนรักเป็นเรื่องรองของชีวิตเรานะ ค่อนไปทางไม่สำคัญด้วย เพราะเราดูแลตัวเองได้ค่ะ
เราไม่เคยขอหรือเกาะใครเพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง :)
จะเกลียดและไม่ชอบด้วยซ้ำที่เห็นผญ.บางคนทำตัวไม่มีค่า พอเขาไม่รักก็จะเป็นจะตาย
แต่ไม่ยอมหันมาดูว่ามีคนรักเราอีกตั้งมากมาย เช่นพ่อแม่พี่น้องคุณไง

แม่เรารู้เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียด แม่จะเข้ามาให้คำปรึกษา แต่ไม่เข้ามาก้าวก่ายในการตัดสินใจ
แม่จะเพียงชี้ทาง สุดท้ายก็จะให้เราตัดสินใจเองว่าจะคุยหรือคบกับใคร
เพราะท่านให้เกียรติในความคิดของเรา
แม่บอกว่าเรามีค่าเสมอ คนที่จะเข้ามา เราต้องรู้จักเลือกและดูๆกันไป แต่อย่ารีบร้อน ห้ามทำตัวไร้ค่า
พ่อกับแม่เลี้ยงมาด้วยความเหนื่อยยาก อย่าไปเสียใจเสียอะไรเพราะคนอื่น


ไหนบอก "ไม่แคร์" แล้วพิมพ์ออกมาทำไม?
เพราะเราแค่อยากให้หลายๆคนรู้ไว้ว่า ชีวิตจริงมันยิ่งกว่านิยายนะ
มันมีเรื่องแบบนี้อยู่จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ฮ่า ๆ เอาสิ!!! แล้วคนเจอคือตัวเราเองด้วย 
ถึงเราจะแก้ตัวหรืออธิบายตัวเองให้ใครๆ ที่่เข้าใจเราผิดฟังไม่ได้
แต่เราไม่กลัวหรอกนะ ^^ เพราะทุกวันนี้เรารู้ตัวเองเสมอว่าตัวเองเป็นยังไง
เราคงปิดหูปิดตาใครไม่ได้ แต่เราเลือกใช้ปากและหูของเราพูดในสิ่งที่ถูก ฟังในสิ่งที่ควรได้นี่นา








ชะนีดราม่า



ตลกจริงๆชีวิตกู ยังกะ "เวียงร้อยดาว" ฮ่า ๆ ๆ 


คือ เรารู้ตัวเองว่าวางตัวไว้ดี ไม่มีอะไรต้องกลัวไงงงง